ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ สิงคโปร์ (Universal Studios Singapore )
สวนสนุกยอดนิยมในเกาะเซ็นโตซ่า สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนสิงคโปร์
ด้านซ้ายมือของ Foodrepublic ก็จะเป็นตู้ขายตั๋ว monorail สำหรับข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า ราคาค่าตั๋วก็ 3 SGD หรือบางช่วงก็จะเก็บ 4 SGD ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งขาไปและขากลับ หรือใครมีบัตร EZ-Link ก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่
บัตรเข้าชมแบบ 1 วัน
วันธรรมดา: ผู้ใหญ๋ 66 SGD | เด็ก 48 SGD | ผู้สูงอายุ 32 SGD
วันหยุด : ผู้ใหญ๋ 72 SGD | เด็ก 52 SGD | ผู้สูงอายุ 36 SGD
บัตรเข้าชมแบบ 2 วัน
วันธรรมดา: ผู้ใหญ๋ 118 SGD | เด็ก 88 SGD | ผู้สูงอายุ 82 SGD
*** บัตรเข้าชมนี้สามารถนำไปใช้ดูและเล่นเครื่องเล่นหลักๆได้ทุกอย่าง ยกเว้นบริการพิเศษบางอย่างเช่นปืนเขาซึ่งต้องเสียเงินเพิ่ม
โดยทั่วไปแล้วในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดพิเศษอื่นๆ จะมีนักท่องจำนวนมาก ดังนั้นการแสดงหรือเครื่องเล่นบางอย่างจะต้องมีการต่อแถวรอคิวยาวมาก บางจุดต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวหรือมากกว่านั้น ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้ว (เคยเข้าไป 2 ครั้งแล้ว) แนะนำให้เข้าไปในวันธรรมดาจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามทาง USS เขาก็มีบริการพิเศษไว้สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย โดยทาง USS จะมี Express Pass หรือบัตรทางด่วนไว้ให้บริการแต่ทว่าต้องเพิ่มเงินอีก 30 SGD ซึ่งจะมีการจัดทำช่องทางด่วนอำนวยความสะดวกไว้ให้ทุกๆสเตชั่น ซึ่งแถวจะสั้นกว่ามากหรือไม่ก็ลัดคิวเข้าไปเล่นได้เลยหากแถวทางด่วนไม่มีคิว ( บัตรนี้ถ้าจะให้ดีควรจะเป็นวันหยุด เพราะวันธรรมดาดูอาจจะไม่คุ้ม)
การจองตั๋วก็ทำได้หลายช่องทางเช่น จองตั๋วออนไลน์ ซื้อที่บูธหน้า USS หรือหากมีเวลาหรือผ่านไปทางไชน่าทาวน์ แนะนำให้ไปที่ซื้อกับเอเจนฯ SeaWheel Travel ที่ตึก People's Park Centre (ชั้น3) ซึ่งจะซื้อได้ตั๋วราคาประหยัดกว่ามาก
นอกจากนั้นบางช่วงเวลาก็ยังมีโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษซึ่งสามารถติดตามความเคลือนไหวได้จากเว็บไชต์ Online (การซื้อตั๋วออนไลน์ ทางเว็บจะส่งตั๋วมาให้ทาง e-mail ซึ่นำไป print แล้วแสดงหน้าทางเข้าได้เลยโดยไม่ต้องแลกเป็นตั๋ว
ภายใน USS จะมีโชว์และเครื่องเล่นต่างๆแยกเป็นโซน ซึ่งหลักๆจะมี 7 โซนด้วยกันซึ่งหากเดินวนจากซ้ายไปขวาหรือทวนเข็มนาฬิกาก็จะเจอโซนต่างๆดังนี้
ส่วนความน่าสนใจของโซนนี้คือการแสดง Lights, Camera, Action Hosted by Steven Spielberg ซึ่งเป็นโชว์แสดงการถ่ายภาพยนต์แบบเรียวไทม์ (real time) ซึ่งจะได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำและการสร้างแอฟเฟค (effect) เหมือนพายุกำลังกระหน่ำเมืองนิวยอร์คแบบอลังกาล นอกจากนั้นยังมีการแสดง Street Entertainment ของ The Rockafellas และ Sesame Street Stage Shows และอื่นๆ
รถไฟเหาะตีลังกา นี้เป็นรถไฟเหาะที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงเท่ากับตึก 14 ซึ่งจะมีสองแบบให้เลือกคือ รางสีแดง( HUMAN) และ สีน้ำเงิน (CYLON) หรือจะเล่นทั้งสองแบบเลยก็ทำได้
รางสีน้ำเงิน (14) จะนั่งห้อยขาไม่มีที่วางเท้า วิ่งซิ่งด้วยความเร็วบนรางโค้ง ควงสว่าน และตีลังกา หวาดเสียวได้ใจเลยทีเดียว
รางสีแดง(15) เป็นที่นั่งแบบเท้าติดพื้น วิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 90 กิโลเมตร/ชม. และจะวิ่งผ่านโค้งให้ได้เสียวสันหลังกันถึง 14 ชั้น แต่ไม่มีตีลังกา
*** ที่จุดนี้เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำสิ่งของติดตัวขึ้นไปด้วย ดังนั้นก่อนจะขึ้นเครื่องเล่นนี้ทุกคนต้องทำการเก็บของไว้ที่ Locker ก่อน
ทรานฟอร์เมอร์ (16)
Transformers จัดว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลของโซนนี้ ซึ่งเป็นการนั่งรถรางเคลื่อนที่ไปในห้องมืดที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อชมภาพยนต์สามมิติจากจอยักษ์(3D) โดยจำลองและดำเนินเรื่องราวการต่อสู้เหมือนกับในหนังเรื่อง Transformers ที่มีการต่อสู่และไล่ล่ากันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ซึ่งท่านจะได้สัมผัสเรื่องราวที่เสมือนเราอยู่ในเหตุการณ์จริง ซึ่งต้องคอยหนีและโยกหลบหลีกอาวุธต่างๆที่มีการต่อสู้กันรวมถึงประกายไฟและความร้อนที่เกิดระเบิดและอื่นๆ
จุดนี้ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก เป็นอะไรที่ประทับใจมากสำหรับน้องๆหนูสายแข็ง สำหรับคนที่ใจอ่อนไหวและตกใจง่ายนั้นขอแนะนำว่าควรข้ามจุดนี้ไปก่อนและมาเก็บตกเอาตอนท้ายๆจะดีกว่า สถานี้ประมาณว่าคนที่ชอบก็ชอบเลยและอยากเล่นซ้ำ แต่ถ้าคนไม่ถูกฉโลกก็จะออกอาการหายใจไม่ทั่วท้อง หรือบางท่านอาจต้องมานั่งเป่ายาลมหลังจากจบการทัวร์
Accelerator (17) เครื่องเล่นรูปถ้วย เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นั่งได้ 2-5 คน จะหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ รอบละประมาณ 5 นาที
Revenge of the mummy เป็นการตกแต่งและนำเสนอเรื่องราวยุคทองของการสำรวจอียิปต์โบราณ และจะมีเครื่องเล่น Revenge of the mummy ซึ่งเรื่องราวการกลับมาล้างแค้นของเหล่ามั่มมี่... สำหรับเครื่องเล่นก็จะคล้ายๆกับสถานนีทรานฟอร์เมอร์ ซึ่งจะเป็นการนั่งรถรางวิ่งผ่าดงเข้าไปในความมืดและจำลองสถานะการณ์เหมือนกับเรานั่งอยู่บนรถที่ต้องเผชิญกับการหลบหลีกหนีการไล่ล่าของเหล่ามั่มมี่..และมีแอฟเฟค หมอก ควัน ไฟ น่าตื่นเต้น
สถานีต้องบอกว่าสุดๆ บางท่านถึงกับออกปากชมปนด่าว่า " แมร่ง...โหดสัส เจงๆ " โดยเฉพาะช่วงที่มีจำลองสถานะการณ์เสมือนกับการนั่งอยู่รถที่กำลังวิ่งถอยหลังหนีการไล่ล่าผ่าดงความมืด
โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าสถานีนี้ถือว่าเป็นอะไรเร้าใจที่สุดๆ ... ประมาณว่าต่อให้สายแข็งขนาดไหนก็ต้องมีออกอาการชมปนด่าเลยที่เดียว ซึ่งก็ทำเอาหลายๆท่านถึงกับปวดเศียรเวียนเกล้าและขาแข้งอ่อนและถึงกับต้องเป่ายาดมกันเลยทีเดียว .... ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่าหากใจไม่แข็งแรงพอ แนะนำให้ไปเล่นและเที่ยวชมจุดอื่นๆก่อนแล้วค่อยกลับมาเก็บที่นี่เป็นสถานีสุดท้าย
*** จุดนี้ไม่อนุญาตให้นำสิ่งของติดตัวไปและจะมีล๊อคเกอร์ (Locker ) ที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือเอาไว้บริการและให้ใช้ฟรีได้ประมาณ 45 นาที
ส่วนด้านตรงกันข้ามกับมั่มมี่ก็จะเป็นสถานี " ตามล่าสมบัติ Treasure Hunters" ซึ่งเป็นนั่งรถจี๊ปวิ่งไปตามรางดูเรื่องราวจำลองเกี่ยวกับการค้นหาและตามล่าขุมทรัพย์ในอตีด ซึ่งเป็นการนั่งชิลๆสบายๆ ไม่โลดโผน รอบละประมาณ 5 นาที
ไฮไลท์ของโซนนี้ก็จะอยู่ Jurassic Park Rapids Adventure ซึ่งเป็นการล่องแพไปตามสายน้ำชมที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ ซึ่งจะได้เปียกปอนแก้ร้อนกันบ้างตามสภาพ... บ้างก็เปียกชุ่มบ้างก็เล็กๆน้อยๆขึ้นอยู่กับจังหวะและมุมแพที่หมุนไปตามสายน้ำ ณ ช่วงเวลานั้นๆ แต่อย่างไรก็ตามที่จุดนี้เขาได้จัดเตรียมเสื้อกันเปียกไว้จำหน่ายราคา 2SGD รวมถึงมีตู้อบแห้งเสื้อผ้าเอาไว้ให้บริการตรงทางออก
Canopy Flyer เสมือนเป็นกระเช้านั่งห้อยขา ที่นั่งคู่และนั่งหันหลังชนกัน
กระเช้าจะเคลื่อนที่ไปตามรางพาชมวิวในโซน The Lost World แบบ ชิลๆ
*** สำหรับไฮโลท์อีกจุดหนึ่งนั่นคือการแสดง WaterWorld ซึ่งมีการบอกต่อกันว่าค่อนข้างสนุก แต่จะแสดงเป็นรอบ อันนี้ผู้เขียนพลาดก็เลยขอติดไว้ก่อน หากมีโอกาสเข้าไปซ่อมอีกเมื่อไหร่ จะนำมาอัพเดทเล่าสู่กันฟังในตอนต่อไป
ไฮไลท์เด็ดๆก็อยู่ที่การชมภาพยนต์ 4D เรื่อง Shrek ซึ่งเหมือนกับได้ร่วมผจญภัยไปกับเชร็ค มีทั้งทั้งเก้าอี้โยกเขย่าเหมือนกับการได้นั่งรถม้า แมงมุมวิ่งพันแข้งพันขาและรวมถึงน้ำ(ขี้มูก)ที่กระเด็นออกมาโดนหน้าเวลาเจ้าลากำลังจามและอื่นๆ
ที่โซนนี้นอกจากหนัง 4 มิติเรืองเชร็ดแล้วก็ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆอีกเช่น Donkey LIVE ซึ่งจะมีเจ้าลามาร้องเพลงสดและสนทนากับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง และเกมส์ Magic Potion Spin หมุนชิงช้าสวรรค์สำหรับเด็กๆและคุณหนูๆ และรวมถึง Enchanted Airways ซึ่งเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ ระดับจูเนียร์ สำหรับนั่งชมบรรยากาศรอบ Far Far Away
โอเคนะครับ....ก็เขียนบรรยายมาครบทั้งเจ็ดโซนแล้ว ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นไกด์ไลน์ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อยากจะมาเที่ยว USS ที่สิงคโปร์
อย่างไรก็ตามสิงคโปร์ยังมีที่เที่ยวอีกหลายๆแห่งด้วยกัน ซึ่งก็จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆและต่อเนื่องในโอกาสต่อไป
Thanks ที่ติดตาม และอย่าลืมกดไลน์เพจด้วยนะครับเพื่อจะได้ไม่พลาดในตอนต่อไป
Universal Studios Singapore หรือ USS เป็นสวนสนุกในเครือ Universal Studios ที่มีต้นกำเนิดมาจาก Hollywood และ Orlando ในประเทศอเมริกา และหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการบุกเข้ามาในแถบเอเชียโดยเริ่มที่ญี่ปุ่นจากนั้นก็เลยขยายมาที่สิงคโปร์ ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของสิงคโปร์ในปัจจุบัน
- สถานที่ตั้งและการเดินทาง
Universal Studios ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซ่า การเดินทางก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่นใช้รถส่วนตัว ใช้บริการขนส่งมวลชนเช่นรถบัส แท๊กซี่ และรถไฟฟ้าโมโนเรล (Monorail) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยว
เป้าหมายแรกของการเดินทางคือต้องมาเริ่มต้นที่ห้างVivoCity โดยขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง Circle Line หรือสายสีม่วงมาลงที่สถานี Harbor Front (CC29 / NE1 ) จากนั้นก็ให้เดินตามป้ายไปที่ Sentosa Express (Monorail VivoCity L3 ซึ่งอยู่บนชั้น 3 ของห้างวิโว่ ซิตี้
เป้าหมายแรกของการเดินทางคือต้องมาเริ่มต้นที่ห้างVivoCity โดยขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง Circle Line หรือสายสีม่วงมาลงที่สถานี Harbor Front (CC29 / NE1 ) จากนั้นก็ให้เดินตามป้ายไปที่ Sentosa Express (Monorail VivoCity L3 ซึ่งอยู่บนชั้น 3 ของห้างวิโว่ ซิตี้
เมื่อขึ้นบรรไดเลื่อนหรือลิฟล์มาที่ชั้น 3 แล้วก็จะเจอกับศูนย์อาหารใหญ่สวยสะดุด ชื่อ Foodrepublic ซึ่งมีอาหารหลากหลายเมนูเตรียมไว้ให้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะฝากท้องไว้ที่นี่ก่อนข้ามไปที่เกาะเซ็นโตซ่า
ด้านซ้ายมือของ Foodrepublic ก็จะเป็นตู้ขายตั๋ว monorail สำหรับข้ามไปเกาะเซ็นโตซ่า ราคาค่าตั๋วก็ 3 SGD หรือบางช่วงก็จะเก็บ 4 SGD ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งขาไปและขากลับ หรือใครมีบัตร EZ-Link ก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่
Monorail จะมีแค่ 4 สถานี และเมื่อรถวิ่งข้ามเกาะไปแล้วก็ให้ลงที่สถานีแรกเลยคือสถานี waterfront จากนั้นก็เดินตามลูกศรที่ชี้บอกทาง
บัตรเข้าชมแบบ 1 วัน
วันธรรมดา: ผู้ใหญ๋ 66 SGD | เด็ก 48 SGD | ผู้สูงอายุ 32 SGD
วันหยุด : ผู้ใหญ๋ 72 SGD | เด็ก 52 SGD | ผู้สูงอายุ 36 SGD
บัตรเข้าชมแบบ 2 วัน
วันธรรมดา: ผู้ใหญ๋ 118 SGD | เด็ก 88 SGD | ผู้สูงอายุ 82 SGD
*** บัตรเข้าชมนี้สามารถนำไปใช้ดูและเล่นเครื่องเล่นหลักๆได้ทุกอย่าง ยกเว้นบริการพิเศษบางอย่างเช่นปืนเขาซึ่งต้องเสียเงินเพิ่ม
โดยทั่วไปแล้วในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดพิเศษอื่นๆ จะมีนักท่องจำนวนมาก ดังนั้นการแสดงหรือเครื่องเล่นบางอย่างจะต้องมีการต่อแถวรอคิวยาวมาก บางจุดต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวหรือมากกว่านั้น ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้ว (เคยเข้าไป 2 ครั้งแล้ว) แนะนำให้เข้าไปในวันธรรมดาจะดีกว่า แต่อย่างไรก็ตามทาง USS เขาก็มีบริการพิเศษไว้สำหรับท่านที่มีเวลาน้อย โดยทาง USS จะมี Express Pass หรือบัตรทางด่วนไว้ให้บริการแต่ทว่าต้องเพิ่มเงินอีก 30 SGD ซึ่งจะมีการจัดทำช่องทางด่วนอำนวยความสะดวกไว้ให้ทุกๆสเตชั่น ซึ่งแถวจะสั้นกว่ามากหรือไม่ก็ลัดคิวเข้าไปเล่นได้เลยหากแถวทางด่วนไม่มีคิว ( บัตรนี้ถ้าจะให้ดีควรจะเป็นวันหยุด เพราะวันธรรมดาดูอาจจะไม่คุ้ม)
การจองตั๋วก็ทำได้หลายช่องทางเช่น จองตั๋วออนไลน์ ซื้อที่บูธหน้า USS หรือหากมีเวลาหรือผ่านไปทางไชน่าทาวน์ แนะนำให้ไปที่ซื้อกับเอเจนฯ SeaWheel Travel ที่ตึก People's Park Centre (ชั้น3) ซึ่งจะซื้อได้ตั๋วราคาประหยัดกว่ามาก
นอกจากนั้นบางช่วงเวลาก็ยังมีโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษซึ่งสามารถติดตามความเคลือนไหวได้จากเว็บไชต์ Online (การซื้อตั๋วออนไลน์ ทางเว็บจะส่งตั๋วมาให้ทาง e-mail ซึ่นำไป print แล้วแสดงหน้าทางเข้าได้เลยโดยไม่ต้องแลกเป็นตั๋ว
ภายใน USS จะมีโชว์และเครื่องเล่นต่างๆแยกเป็นโซน ซึ่งหลักๆจะมี 7 โซนด้วยกันซึ่งหากเดินวนจากซ้ายไปขวาหรือทวนเข็มนาฬิกาก็จะเจอโซนต่างๆดังนี้
โดยเริ่มจากโซน Hollywood => New York => Sci Fi City => Ancient Egypt => Lost World => Far Far Away => Madagascar
ธรรมชาติโชว์และเครื่องเล่นในแต่ละโซนจะต่างกันไป ซึ่งหากต้องการสัมผัสประสบการณ์แต่ละจุดให้ครบนั้นอาจต้องใช้เวลาตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดจนปิดและนอกจากนั้นยังต้องศึกษาข้อมูลและแพลนให้ดี ไม่ใช่เดินและเข้าสถานีเครืองเล่นตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกาตามบางแหล่งข่าวแนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสายอ่อน (ใจอ่อน) ควรต้องศึกษาความโหดมันฮาของแต่โซนให้ดีๆ มิฉนั้นท่านอาจเกิดอาการปวดเศียรเวียนเกล้า อาเจียรรวมถึงขาแข้งอ่อนปวกเปียกก่อนเวลาอันควรและเสียโอกาสที่อุตสาห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกล
- โซน Hollywood : โซนนี้ด้านซ้ายมือของปากทางเข้า/ออก ซึ่งจะรวบรวมความบันเทิงเสมือนเราอยู่บนถนน Hollywood จุดเด่นของโซนนี้จะเป็นการแสดงดนตรีของ Monster Rock , Daddy O's , Mel' Dinettes รวมถึงเป็นบริเวณร้านค้าขายของชำร่วยต่างๆ (โซนนี้ส่วนใหญ่จะมาแวะกันก่อนกลับบ้าน)
 |
| ภาพประกอบจากกลูเกิล |
- โซน New York : โซนนี้อยู่ด้านขวามือของปากทางเข้า/ออก และเป็นจุดแรกหากเดินทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งเป็นการจำลองจิตวิญญาณและแลนด์มาร์คสุดคลาสสิคบนถนนในเมืองนิวยอร์ค
ส่วนความน่าสนใจของโซนนี้คือการแสดง Lights, Camera, Action Hosted by Steven Spielberg ซึ่งเป็นโชว์แสดงการถ่ายภาพยนต์แบบเรียวไทม์ (real time) ซึ่งจะได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำและการสร้างแอฟเฟค (effect) เหมือนพายุกำลังกระหน่ำเมืองนิวยอร์คแบบอลังกาล นอกจากนั้นยังมีการแสดง Street Entertainment ของ The Rockafellas และ Sesame Street Stage Shows และอื่นๆ
- โซน Sci Fi City : โซนนี้เป็นเรื่องราวของโลกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไฮไลท์ของโซนนี้ประกอบด้วยรถไฟเหาะตีลังกา Battles Galactica ( หมายเลข 14 และ 15) ทรานฟอร์เมอร์ (16) และ Accelerator (17)
รถไฟเหาะตีลังกา นี้เป็นรถไฟเหาะที่สูงที่สุดในโลก มีความสูงเท่ากับตึก 14 ซึ่งจะมีสองแบบให้เลือกคือ รางสีแดง( HUMAN) และ สีน้ำเงิน (CYLON) หรือจะเล่นทั้งสองแบบเลยก็ทำได้
 |
| เปรียบเทียบระหว่างรถไฟเหาะตีลังการะหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน |
รางสีน้ำเงิน (14) จะนั่งห้อยขาไม่มีที่วางเท้า วิ่งซิ่งด้วยความเร็วบนรางโค้ง ควงสว่าน และตีลังกา หวาดเสียวได้ใจเลยทีเดียว
รางสีแดง(15) เป็นที่นั่งแบบเท้าติดพื้น วิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 90 กิโลเมตร/ชม. และจะวิ่งผ่านโค้งให้ได้เสียวสันหลังกันถึง 14 ชั้น แต่ไม่มีตีลังกา
*** ที่จุดนี้เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้นำสิ่งของติดตัวขึ้นไปด้วย ดังนั้นก่อนจะขึ้นเครื่องเล่นนี้ทุกคนต้องทำการเก็บของไว้ที่ Locker ก่อน
ทรานฟอร์เมอร์ (16)
Transformers จัดว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลของโซนนี้ ซึ่งเป็นการนั่งรถรางเคลื่อนที่ไปในห้องมืดที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อชมภาพยนต์สามมิติจากจอยักษ์(3D) โดยจำลองและดำเนินเรื่องราวการต่อสู้เหมือนกับในหนังเรื่อง Transformers ที่มีการต่อสู่และไล่ล่ากันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ซึ่งท่านจะได้สัมผัสเรื่องราวที่เสมือนเราอยู่ในเหตุการณ์จริง ซึ่งต้องคอยหนีและโยกหลบหลีกอาวุธต่างๆที่มีการต่อสู้กันรวมถึงประกายไฟและความร้อนที่เกิดระเบิดและอื่นๆ
จุดนี้ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก เป็นอะไรที่ประทับใจมากสำหรับน้องๆหนูสายแข็ง สำหรับคนที่ใจอ่อนไหวและตกใจง่ายนั้นขอแนะนำว่าควรข้ามจุดนี้ไปก่อนและมาเก็บตกเอาตอนท้ายๆจะดีกว่า สถานี้ประมาณว่าคนที่ชอบก็ชอบเลยและอยากเล่นซ้ำ แต่ถ้าคนไม่ถูกฉโลกก็จะออกอาการหายใจไม่ทั่วท้อง หรือบางท่านอาจต้องมานั่งเป่ายาลมหลังจากจบการทัวร์
 |
| บริเวณหน้าทางเข้าทรานฟอร์เมอร์ |
Accelerator (17) เครื่องเล่นรูปถ้วย เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นั่งได้ 2-5 คน จะหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ รอบละประมาณ 5 นาที - โซน Ancient Egypt: โซนนี้มีไฮไลท์อยู่สองจุดด้วยกันคือ "Revenge of the mummy " และ "Treasure Hunters" หมายเลข 12 และ 13 ตามแผนที่
Revenge of the mummy เป็นการตกแต่งและนำเสนอเรื่องราวยุคทองของการสำรวจอียิปต์โบราณ และจะมีเครื่องเล่น Revenge of the mummy ซึ่งเรื่องราวการกลับมาล้างแค้นของเหล่ามั่มมี่... สำหรับเครื่องเล่นก็จะคล้ายๆกับสถานนีทรานฟอร์เมอร์ ซึ่งจะเป็นการนั่งรถรางวิ่งผ่าดงเข้าไปในความมืดและจำลองสถานะการณ์เหมือนกับเรานั่งอยู่บนรถที่ต้องเผชิญกับการหลบหลีกหนีการไล่ล่าของเหล่ามั่มมี่..และมีแอฟเฟค หมอก ควัน ไฟ น่าตื่นเต้น
 |
| ภาพประกอบจาก USS |
โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าสถานีนี้ถือว่าเป็นอะไรเร้าใจที่สุดๆ ... ประมาณว่าต่อให้สายแข็งขนาดไหนก็ต้องมีออกอาการชมปนด่าเลยที่เดียว ซึ่งก็ทำเอาหลายๆท่านถึงกับปวดเศียรเวียนเกล้าและขาแข้งอ่อนและถึงกับต้องเป่ายาดมกันเลยทีเดียว .... ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่าหากใจไม่แข็งแรงพอ แนะนำให้ไปเล่นและเที่ยวชมจุดอื่นๆก่อนแล้วค่อยกลับมาเก็บที่นี่เป็นสถานีสุดท้าย
*** จุดนี้ไม่อนุญาตให้นำสิ่งของติดตัวไปและจะมีล๊อคเกอร์ (Locker ) ที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือเอาไว้บริการและให้ใช้ฟรีได้ประมาณ 45 นาที
 |
| ภาพประกอบจาก USS |
- โซน Lost World : โซนนี้เป็นโซนจำลองยุคไดโนเสาร์และสัตว์โลกล้านปี ตามแนวคิดแบบหนังเรื่อง Jurassic Park และ The Lost World ซึ่งจะแยกเป็นของพี้นที่คือ Jurassic Park และ Water World
 |
| Jurassic Park Rapids Adventure นั่งแพล่องไปชมที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ |
Canopy Flyer เสมือนเป็นกระเช้านั่งห้อยขา ที่นั่งคู่และนั่งหันหลังชนกัน
กระเช้าจะเคลื่อนที่ไปตามรางพาชมวิวในโซน The Lost World แบบ ชิลๆ *** สำหรับไฮโลท์อีกจุดหนึ่งนั่นคือการแสดง WaterWorld ซึ่งมีการบอกต่อกันว่าค่อนข้างสนุก แต่จะแสดงเป็นรอบ อันนี้ผู้เขียนพลาดก็เลยขอติดไว้ก่อน หากมีโอกาสเข้าไปซ่อมอีกเมื่อไหร่ จะนำมาอัพเดทเล่าสู่กันฟังในตอนต่อไป
- โซน Far Far Away: ประกอบด้วยอาณาจักรที่มีมนต์ขลังดุจเทพนิยายตามแบบฉบับภาพยนต์เรื่องเชร็ค (Shrek films )
ไฮไลท์เด็ดๆก็อยู่ที่การชมภาพยนต์ 4D เรื่อง Shrek ซึ่งเหมือนกับได้ร่วมผจญภัยไปกับเชร็ค มีทั้งทั้งเก้าอี้โยกเขย่าเหมือนกับการได้นั่งรถม้า แมงมุมวิ่งพันแข้งพันขาและรวมถึงน้ำ(ขี้มูก)ที่กระเด็นออกมาโดนหน้าเวลาเจ้าลากำลังจามและอื่นๆ 
ที่โซนนี้นอกจากหนัง 4 มิติเรืองเชร็ดแล้วก็ยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆอีกเช่น Donkey LIVE ซึ่งจะมีเจ้าลามาร้องเพลงสดและสนทนากับผู้ชมอย่างเป็นกันเอง และเกมส์ Magic Potion Spin หมุนชิงช้าสวรรค์สำหรับเด็กๆและคุณหนูๆ และรวมถึง Enchanted Airways ซึ่งเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ ระดับจูเนียร์ สำหรับนั่งชมบรรยากาศรอบ Far Far Away
- โซน Madagasca : โซนนี้จะประกอบด้วยเครื่องเล่น Kin Julien's Beach Party-Go-Round หรือคล้ายๆกับม้าหมุน และ A Crate Adventure ซึ่งคล้ายกับเป็นการนั่งเรือท่องแม่น้ำชมเรื่องราวของสัตว์ต่างๆที่เป็นตัวละครในหนังเรื่องมาดากัสการ์ ภาพรวมของโซนนี้ไม่มีอะไรที่โลดโผนแต่จะเป็นการพักผ่อนหย่อนใจแบบชิลๆ ซึ่งก็เหมาะสำหรับผู้ปกครองกับคุณน้องๆหนูๆที่มาเที่ยวด้วยกัน
 |
| ภาพประกอบจาก USS |
โอเคนะครับ....ก็เขียนบรรยายมาครบทั้งเจ็ดโซนแล้ว ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นไกด์ไลน์ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้อยากจะมาเที่ยว USS ที่สิงคโปร์
อย่างไรก็ตามสิงคโปร์ยังมีที่เที่ยวอีกหลายๆแห่งด้วยกัน ซึ่งก็จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆและต่อเนื่องในโอกาสต่อไป
Thanks ที่ติดตาม และอย่าลืมกดไลน์เพจด้วยนะครับเพื่อจะได้ไม่พลาดในตอนต่อไป
No comments:
Post a Comment