การโดยสารเครื่องบินจะเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุุดสำหรับการมาเยือนสิงคโปร์ เวลาที่ใช้เดินทางก็ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งก็มีหลายสายการบินด้วยกันที่ให้บริการในเส้นทางนี้
สายการบินมาตรฐานที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่นิยมลำดับต้นๆก็คือ สายการบินไทย สิงคโปร์แอร์ไลน์ และ คาเธ่ย์แฟซิฟิก
นอกจากนั้นก็ยังมีสายการบินแบบประหยัดให้ท่านได้เลือกเลือกเดินทางอีกด้วยเช่น Air Asia Tiger Airways หรือ Jet star เป็นต้น ซึ่งท่านสามารถเข้าไปจองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บของสายการบินต่างๆได้ดังนี้
เว็บไชต์สายการบินไทย: http://www.thaiairways.com/
เว็บไซต์สิงคโปร์แอร์ไลน์: http://www.singaporeair.com
เว็บไชต์สายการบินคาเธย์แฟซิฟิก: http://www.cathaypacific.com
เว็บไชต์สายแอร์เอเซีย: http://www.airasia.com/
เว็บไชต์สายการบินไทเกอร์: http://www.tigerair.com
เว็บไชต์สายการบินเจ๊ทสตาร์: http://www.jetstar.com
*** สำหรับสายการบินแบบประหยัด เราแนะนำให้ท่านวางแผนการเดินทางและจองตั๋วล่วงหน้าเสียตั้งแต่เนินๆ ซึ่งท่านจะได้รับตั๋วที่ราคาประหยัด สี่พันกว่าๆ ถึงหกพันกว่าบาท ก็บินไปกลับได้แล้ว แต่ถ้าไม่วางแผนล่วงหน้าและมาจองตั๋วในระยะเผาขนหรือกระชั้นชิด สายการบินประหยัดจะไม่เป็นดังที่โฆษณาเลย โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ราคาตั๋วจะขยับสูงขึ้นจนไกล้เคียงกับสายการบินมาตรฐานเลยเชียว ขอบอก !!
*** สายการบินดังที่กล่าวมาจะมีเที่ยวบินให้บริการไปกลับ กรุงเทพ - สิงคโปร์ ทุกวัน และอย่างน้อยๆสามถึงสี่เที่ยวต่อวันสำหรับสายการบินมาตรฐาน
ตัวอย่างการจองตั๋วการบินไทยออนไลน์
เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์การบินไทยได้แล้ว ก็ทำการระบุว่าต้องการตั๋วแบบไหน แบบไป-กลับ หรือว่าแบบบินเที่ยวเดียว จากนั้นก็ระบเส้นทางพร้อมระบุวันที่จะเดินทางไปและเดินทางกลับ จากนั้นก็กดปุ่ม Book Now
หลังกดปุ่ม Book Now สักครู่ ระบบก็โชว์ตารางเมทริกซ์ ให้เลือกว่าจะเดินทางไปและกลับวันไหน พร้อมระบุราคา
ราคาค่าตั๋วเครื่องบินแต่ละสายการบินจะไม่เท่ากัน ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนราคาตลอดและขึ้นอยู่กับเหตุและผลดังนี้
1. Competition on Route โดยดูจากจำนวนผู้โดยสารต่อเที่ยวต่อวันว่า เป็นเที่ยวบินที่ทำกำไรให้หรือไม่ มีกี่สายการบินที่บินสนามบิน Aไปยังสนามบิน B ยิ่งถ้ามีสายการบินน้อย คู่แข่งน้อย ราคาก็ยิ่งจะถูกกำหนดได้ง่ายโดยสารการบินเหล่านั้น
2. Seat Demand & Seat Supply ความต้องการของผู้โดยสารว่าเป็นช่วง High Season หรือช่วง Low Season ยิ่งช่วงไหนที่มีผู้โดยสารเดินทางมากเป็นพิเศษ เช่น ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ ราคาตั๋วจะถูกกำหนดได้ง่ายเนื่องจากมี Demand ของการเดินทางสูง
3. Distance of Route ระยะทางของการเดินทางจากสนามบิน Aไปยังสนามบิน B แน่นอนว่ายิ่งระยะบินที่ไกลราคาตั๋วก็ย่อมต้องแพงกว่าระยะทางที่ใกล้
4. Fuel Prices เรื่องของราคาน้ำมันนี่แน่นอนอยู่แล้วครับว่าเป็นตัวกำหนดราคาอย่างเห็นได้ชัด ช่วงไหนที่ราคาน้ำมันถูกตั๋วก็ย่อมจะถูก ยิ่งช่วงไหนราคาน้ำมันแพงหรือมีการขาดแคลนน้ำมัน ราคาตั๋วก็จะแพงหูฉี่
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาตั๋วเครื่องบินติดตามได้จากลิงค์นี้ครับhttp://www.oknation.net/blog/print.php?id=836514
No comments:
Post a Comment